逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (ขจง) - ถ้าอย่างนั้น จะว่ายังไงดี คนที่ไม่ใช่ยิวไม่ได้สนใจว่าพระองค์จะยอมรับเขาหรือไม่ แต่พระเจ้ากลับยอมรับเขา และที่พระองค์ยอมรับเขาก็เพราะเขาไว้วางใจ
- 新标点和合本 - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 这样,我们要怎么说呢?那不追求义的外邦人却获得了义,就是因信而获得的义。
- 和合本2010(神版-简体) - 这样,我们要怎么说呢?那不追求义的外邦人却获得了义,就是因信而获得的义。
- 当代译本 - 这样看来,我们该怎么说呢?本来不追求义的外族人却得到了义,就是因信而得的义。
- 圣经新译本 - 既是这样,我们还有什么可说的呢?那不追求义的外族人却得了义,就是因信而得的义。
- 中文标准译本 - 那么,我们要怎么说呢?那原来没有追求义的外邦人,却得到了义,就是因信而得的义;
- 现代标点和合本 - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义;
- 和合本(拼音版) - 这样,我们可说什么呢?那本来不追求义的外邦人反得了义,就是因信而得的义;
- New International Version - What then shall we say? That the Gentiles, who did not pursue righteousness, have obtained it, a righteousness that is by faith;
- New International Reader's Version - What should we say then? Gentiles did not look for a way to be right with God. But they found it by having faith.
- English Standard Version - What shall we say, then? That Gentiles who did not pursue righteousness have attained it, that is, a righteousness that is by faith;
- New Living Translation - What does all this mean? Even though the Gentiles were not trying to follow God’s standards, they were made right with God. And it was by faith that this took place.
- Christian Standard Bible - What should we say then? Gentiles, who did not pursue righteousness, have obtained righteousness — namely the righteousness that comes from faith.
- New American Standard Bible - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness, attained righteousness, but the righteousness that is by faith;
- New King James Version - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness, have attained to righteousness, even the righteousness of faith;
- Amplified Bible - What shall we say then? That Gentiles, who did not pursue righteousness [who did not seek salvation and a right relationship with God, nevertheless] obtained righteousness, that is, the righteousness which is produced by faith;
- American Standard Version - What shall we say then? That the Gentiles, who followed not after righteousness, attained to righteousness, even the righteousness which is of faith:
- King James Version - What shall we say then? That the Gentiles, which followed not after righteousness, have attained to righteousness, even the righteousness which is of faith.
- New English Translation - What shall we say then? – that the Gentiles who did not pursue righteousness obtained it, that is, a righteousness that is by faith,
- World English Bible - What shall we say then? That the Gentiles, who didn’t follow after righteousness, attained to righteousness, even the righteousness which is of faith;
- 新標點和合本 - 這樣,我們可說甚麼呢?那本來不追求義的外邦人反得了義,就是因信而得的義。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 這樣,我們要怎麼說呢?那不追求義的外邦人卻獲得了義,就是因信而獲得的義。
- 和合本2010(神版-繁體) - 這樣,我們要怎麼說呢?那不追求義的外邦人卻獲得了義,就是因信而獲得的義。
- 當代譯本 - 這樣看來,我們該怎麼說呢?本來不追求義的外族人卻得到了義,就是因信而得的義。
- 聖經新譯本 - 既是這樣,我們還有甚麼可說的呢?那不追求義的外族人卻得了義,就是因信而得的義。
- 呂振中譯本 - 這樣,我們可怎麼說呢?那不追求義的外國人倒追着了義、那本着信的義;
- 中文標準譯本 - 那麼,我們要怎麼說呢?那原來沒有追求義的外邦人,卻得到了義,就是因信而得的義;
- 現代標點和合本 - 這樣,我們可說什麼呢?那本來不追求義的外邦人反得了義,就是因信而得的義;
- 文理和合譯本 - 然則將何言耶、異邦人未趨義而得義、即由信之義也、
- 文理委辦譯本 - 是何以言之、異邦人不求稱義、而得稱義者、乃以信主而稱義、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 是則何言、異邦人不尋義而得義、即由信之義、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 於此吾人尚有何說?異邦之人、未曾求義、竟因信而得義矣。
- Nueva Versión Internacional - ¿Qué concluiremos? Pues que los gentiles, que no buscaban la justicia, la han alcanzado. Me refiero a la justicia que es por la fe.
- 현대인의 성경 - 그렇다면 우리가 무슨 말을 해야 되겠습니까? 하나님을 찾지 않던 이방인들은 믿음으로 의롭다는 인정을 받았는데
- Новый Русский Перевод - Что же нам теперь сказать? Язычники, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Что же нам теперь сказать? Народы, которые и не стремились к праведности, получили праведность благодаря своей вере.
- La Bible du Semeur 2015 - Que dire maintenant ? Voici ce que nous disons : les païens qui ne cherchaient pas à être déclarés justes par Dieu ont saisi cette justice, mais il s’agit de la justice qui est reçue par la foi.
- リビングバイブル - では、どういうことになるでしょう。信仰によって与えられる神の救いを求めなかった外国人は、救いの機会を得ました。まさに、信仰による救いです。神は、信仰によって無罪とされる機会をお与えになりました。
- Nestle Aland 28 - Τί οὖν ἐροῦμεν; ὅτι ἔθνη τὰ μὴ διώκοντα δικαιοσύνην κατέλαβεν δικαιοσύνην, δικαιοσύνην δὲ τὴν ἐκ πίστεως,
- unfoldingWord® Greek New Testament - τί οὖν ἐροῦμεν? ὅτι ἔθνη τὰ μὴ διώκοντα δικαιοσύνην, κατέλαβεν δικαιοσύνην, δικαιοσύνην δὲ τὴν ἐκ πίστεως;
- Nova Versão Internacional - Que diremos, então? Os gentios, que não buscavam justiça, a obtiveram, uma justiça que vem da fé;
- Hoffnung für alle - Was will ich nun damit sagen? Menschen aller Völker, die sich nicht darum bemüht haben, bei Gott Anerkennung zu finden, wurden von ihm angenommen, und zwar durch ihren Glauben an Jesus Christus.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Vậy, chúng ta sẽ nói thế nào? Ngay cả khi các Dân Ngoại không theo được tiêu chuẩn của Đức Chúa Trời, nhưng họ đạt được công chính của Đức Chúa Trời. Và bởi đức tin đó họ đạt được công chính.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - เช่นนี้แล้วเราจะว่าอย่างไร? คนต่างชาติที่ไม่ได้ขวนขวายหาความชอบธรรมกลับได้ความชอบธรรม คือความชอบธรรมโดยความเชื่อ
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แล้วเราจะว่าอย่างไร แม้ว่าพวกคนนอกไม่ได้มุ่งหาความชอบธรรม แต่ก็ยังได้รับความชอบธรรมโดยความเชื่อ
- Thai KJV - ถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไร จะว่าพวกต่างชาติที่ไม่ได้ใฝ่หาความชอบธรรม ก็ยังได้รับความชอบธรรมคือความชอบธรรมที่เกิดขึ้นโดยความเชื่อ
交叉引用
- โรม 9:31 - แต่คนอิสราเอลแสวงหากฎที่กำหนดว่าพระเจ้าต้องการอะไรจากคนของพระองค์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บรรลุถึงกฎนั้น
- กาลาเทีย 3:24 - กฎก็เลยเป็นเหมือนพี่เลี้ยง จนกว่าพระคริสต์จะมาถึง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ยอมรับเราเพราะเราไว้วางใจ
- โรม 3:5 - เราจะพูดอย่างไรดี ถ้าการที่เราทำผิดทำให้เห็นความดีของพระเจ้าเด่นชัดขึ้น จะว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรมที่ลงโทษพวกเราหรือ (ผมพูดแบบคนทั่วๆไปนะ)
- โรม 4:9 - เกียรตินี้มีไว้สำหรับคนที่ทำพิธีขลิบเท่านั้นหรือ มันมีไว้สำหรับคนที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบด้วยไม่ใช่หรือ ที่ผมถามก็เพราะเราพูดว่า “อับราฮัมไว้วางใจในพระเจ้า พระเจ้าก็เลยนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นว่าเป็นสาเหตุเพียงพอที่พระองค์จะยอมรับท่าน”
- โรม 4:22 - “พระเจ้าจึงนับว่าความไว้วางใจของท่านนั้นเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับท่าน”
- สุภาษิต 21:21 - คนที่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้องและความจงรักภักดี ก็จะพบกับชีวิตที่ยืนยาว ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศ
- อิสยาห์ 65:1 - พระยาห์เวห์ตอบว่า “ตอนนั้น เราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้เรียกหาเรา ได้เข้ามาใกล้เรา ตอนนั้นเราพร้อมที่จะให้คนพวกนั้นที่ไม่ได้ตามหาเรา ได้เจอกับเรา เราได้พูดกับชนชาติที่ไม่ได้ร้องเรียกเราว่า ‘เราอยู่นี่ เราอยู่นี่’
- อิสยาห์ 65:2 - เราอ้าแขนของเราทั้งวันให้กับชนชาติที่ดื้อรั้น ที่ชอบเดินในเส้นทางที่ไม่ดีและชอบตามใจตัวเอง
- เอเฟซัส 4:17 - ในฐานะตัวแทนขององค์เจ้าชีวิต ผมขอบอกคุณว่า ต่อจากนี้ไป อย่าใช้ชีวิตเหมือนกับคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า ที่คิดแต่เรื่องไร้สาระ
- เอเฟซัส 4:18 - ความคิดของเขามืดมัวไปเพราะความโง่เขลาและจิตใจที่ดื้อรั้นทำให้เขาถูกแยกออกจากชีวิตที่มาจากพระเจ้า
- เอเฟซัส 4:19 - พวกเขาไม่มีความละอายต่อบาปอีกแล้ว ปล่อยตัวมัวเมาในกาม ทำเรื่องไม่บริสุทธิ์ทุกอย่างโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ
- 1 เปโตร 4:3 - ในอดีตคุณก็ได้ใช้ชีวิตอย่างคนที่ไม่เชื่อพระเจ้ามามากพอแล้ว ทั้งมั่วโลกีย์ กามราคะ เมาเหล้า มั่วสุมทางเพศ เลี้ยงฉลองเมามาย และกราบไหว้รูปเคารพ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง
- โรม 5:1 - พระเจ้านับว่าเราเป็นคนที่พระองค์ยอมรับเพราะเราไว้วางใจ จึงเกิดความสงบสุขระหว่างเรากับพระเจ้า ผ่านทางพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
- อิสยาห์ 51:1 - พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ ให้ดูหินนั้น ที่เจ้าถูกสกัดออกมาสิ ให้ดูบ่อหินนั้น ที่เจ้าถูกขุดออกมา
- สุภาษิต 15:9 - พระยาห์เวห์ขยะแขยงทางของคนชั่ว แต่พระองค์รักคนที่ติดตามสิ่งที่ถูกต้อง
- โรม 4:13 - พระเจ้าสัญญากับอับราฮัมและลูกหลานของท่านว่า พวกเขาจะได้รับโลกนี้เป็นมรดก แต่ที่พระเจ้าสัญญากับท่านอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะท่านทำตามกฎ แต่เพราะท่านไว้วางใจพระเจ้าต่างหาก พระเจ้าถึงยอมรับท่าน
- 1 ทิโมธี 6:11 - ส่วนคุณที่เป็นคนของพระเจ้า ให้วิ่งหนีไปให้ไกลจากเรื่องพวกนี้ และให้ใช้ชีวิตตามที่พระเจ้าชอบใจ ทำตามหลักศาสนาที่แท้จริง มีความเชื่อ ความรัก ความอดทนอดกลั้น และความสุภาพอ่อนโยน
- โรม 10:10 - เพราะพระเจ้ายอมรับคนที่ไว้วางใจ และคนที่ยอมรับด้วยปากว่าเชื่อก็จะรอด
- โรม 3:21 - แต่ตอนนี้ พระเจ้าได้เปิดเผยให้เห็นว่าพระองค์นั้นซื่อสัตย์และทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ โดยไม่เกี่ยวข้องกับกฎเลย แต่ว่าทั้งกฎและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้เป็นพยานถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์
- โรม 3:22 - พระเจ้าทำให้เราเห็นว่าพระองค์นั้นซื่อสัตย์ และทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ พระองค์ทำอย่างนี้ผ่านทางความซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆคนที่ไว้วางใจ ไม่มีใครแตกต่างกันเลย
- กาลาเทีย 5:5 - พวกเรามีพระวิญญาณเพราะได้ไว้วางใจ เราถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยสิ่งที่เราหวังไว้อย่างมั่นอกมั่นใจ ความหวังนั้นคือพระเจ้าจะยอมรับเราแน่ในวันสุดท้าย
- เอเฟซัส 2:12 - จำไว้ว่า ในตอนนั้น พวกคุณยังไม่มีพระคริสต์ ไม่ได้รวมอยู่ในชุมชนชาวอิสราเอล และไม่มีส่วนร่วมในข้อตกลงต่างๆที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ คุณใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้แบบไม่มีความหวัง และไม่มีพระเจ้า
- โรม 1:17 - เพราะในข่าวดีนั้น พระเจ้ากำลังเปิดเผยให้เห็นว่า พระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ เพราะพระเจ้าแสดงความซื่อสัตย์ของพระองค์ให้เห็นก่อน คนจึงไว้วางใจในพระองค์ เหมือนกับที่พระคัมภีร์ได้เขียนไว้ว่า “คนที่พระเจ้ายอมรับจะใช้ชีวิตด้วยความไว้วางใจ”
- โรม 1:18 - เพราะพระเจ้ากำลังแสดงความโกรธของพระองค์ให้เห็นจากสวรรค์ ต่อความชั่วช้าทุกอย่างและความผิดที่คนทำขึ้น สิ่งเหล่านี้ไปปิดบังความจริงไม่ให้คนรู้
- โรม 1:19 - ที่พระเจ้าโกรธก็เพราะ เรื่องที่คนจะรู้เกี่ยวกับพระเจ้าได้นั้น คนก็เห็นอย่างชัดเจนแล้ว เพราะพระเจ้าได้เปิดเผยให้มันเห็นชัดเจนอยู่แล้ว
- โรม 1:20 - นับตั้งแต่วันแรกที่สร้างโลกนี้มา คุณสมบัติต่างๆของพระเจ้าที่ไม่สามารถมองเห็น เช่นฤทธิ์อำนาจที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย หรือความเป็นพระเจ้าของพระองค์ มนุษย์เห็นได้ชัดเจนเพราะเขาสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้จากสิ่งต่างๆที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา นี่เป็นเหตุผลที่มนุษย์จึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย
- โรม 1:21 - เพราะเขารู้เรื่องพระเจ้า แต่ไม่ได้ยกย่องพระองค์เป็นพระเจ้าของเขา และไม่ขอบคุณพระองค์ด้วย แต่พวกเขากลับสนใจสิ่งต่างๆที่ไร้ค่า และจิตใจของเขาที่ขาดความเข้าใจก็มืดมนไป
- โรม 1:22 - ถึงแม้พวกเขาอ้างว่าเป็นคนฉลาด แต่กลับกลายเป็นคนโง่ไป
- โรม 1:23 - เพราะเขาได้เอาความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ไม่มีวันตายนี้ ไปแลกกับรูปปั้นที่ทำขึ้นมาเป็นรูปของมนุษย์ที่ต้องตาย หรือรูปนกต่างๆ หรือสัตว์สี่เท้า หรือสัตว์เลื้อยคลาน
- โรม 1:24 - พระเจ้าจึงปล่อยให้มนุษย์ทำสิ่งชั่วช้าลามก ตามกิเลสตัณหาที่อยู่ในใจของพวกเขา เขาจึงทำผิดทางเพศ ใช้ร่างกายของกันและกันอย่างน่าละอาย
- โรม 1:25 - พวกเขาเอาความจริงของพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ พวกเขาบูชาและรับใช้สิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา แทนที่จะบูชาและรับใช้พระเจ้าผู้สร้างสิ่งเหล่านั้น พระองค์สมควรได้รับการสรรเสริญตลอดไป อาเมน
- โรม 1:26 - ดังนั้นพระเจ้าจึงปล่อยให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้กิเลสตัณหาอันน่าละอาย พวกผู้หญิงแทนที่จะมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติแต่กลับทำให้มันผิดธรรมชาติไป
- โรม 1:27 - ส่วนพวกผู้ชายก็เหมือนกัน แทนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงตามธรรมชาติ กลับไปเผาผลาญไฟราคะด้วยกันเอง ผู้ชายกับผู้ชายทำสิ่งที่น่ารังเกียจต่อกัน นี่แหละเป็นผลกรรมที่พวกเขาได้รับเพราะทิ้งความจริงไป
- โรม 1:28 - พวกเขาเห็นว่าการรู้จักพระเจ้านั้นไร้ค่า พระเจ้าก็เลยปล่อยให้เขามีความคิดที่ไร้ค่า และทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
- โรม 1:29 - มนุษย์จึงเต็มไปด้วยความผิดทุกอย่าง ความชั่วร้าย ความโลภ การปองร้าย ความอิจฉาริษยา การฆ่าฟัน การทะเลาะวิวาท การหลอกลวง การเกลียดชัง การซุบซิบนินทา
- โรม 1:30 - การพูดส่อเสียด การเกลียดชังพระเจ้า ความหยาบคาย ความเย่อหยิ่งจองหอง การอวดตัว การคิดค้นวิธีทำชั่วแบบใหม่ๆ การไม่เชื่อฟังพ่อแม่
- โรม 1:31 - การเป็นคนโง่ ไม่รักษาคำพูด ไม่มีความรัก และขาดความเมตตา
- โรม 1:32 - ทั้งๆที่รู้กฎเกณฑ์ของพระเจ้าว่าคนที่ทำสิ่งเหล่านี้สมควรตาย พวกเขาไม่ใช่แค่ทำเองเท่านั้น แต่ยังไปเห็นดีเห็นชอบกับคนอื่นที่ทำอย่างนั้นด้วย
- 1 โครินธ์ 6:9 - พวกคุณไม่รู้หรือว่า คนที่ทำชั่วจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก อย่าหลอกตัวเองเลย คนที่ทำผิดทางเพศ คนที่กราบไหว้รูปเคารพ คนที่เล่นชู้ ผู้ชายขายตัว พวกเกย์
- 1 โครินธ์ 6:10 - คนขี้ขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนชอบใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น คนขี้โกง คนพวกนี้ไม่มีวันได้อาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดกหรอก
- 1 โครินธ์ 6:11 - ในอดีตพวกคุณบางคนก็เป็นอย่างนั้น แต่ฤทธิ์เดชของพระเยซูคริสต์ และฤทธิ์เดชของพระวิญญาณของพระเจ้าของเราได้ชำระคุณจากบาป ทำให้คุณเป็นของพระเจ้า และทำให้พระเจ้ายอมรับคุณ
- กาลาเทีย 3:8 - พระคัมภีร์รู้ล่วงหน้านานมาแล้วว่า พระเจ้าจะยอมรับคนที่ไม่ใช่ยิวเพราะพวกเขาจะไว้วางใจในพระองค์ และพระเจ้าได้ประกาศข่าวดีนี้กับอับราฮัมก่อนล่วงหน้าแล้วว่า “ทุกชนชาติจะได้รับพระพรเพราะอับราฮัม”
- โรม 9:14 - แล้วทีนี้จะว่ายังไงดี พระเจ้าไม่ยุติธรรมหรือ ไม่มีทาง
- โรม 10:20 - ต่อมาพระเจ้าพูดผ่านทางอิสยาห์ และอิสยาห์กล้าพูดว่า “คนที่ไม่ได้แสวงหาเรา ได้พบเรา เราได้ปรากฏตัวให้กับคนที่ไม่สนใจเรา”
- โรม 10:6 - ส่วนคนที่พระเจ้ายอมรับเพราะเขาไว้วางใจพระเจ้า โมเสสพูดว่า “ไม่ต้องคิดในใจว่า แล้วใครจะเป็นคนขึ้นไปบนสวรรค์” (หมายถึงขึ้นไปเชิญพระคริสต์ลงมาบนโลกเพื่อช่วยเรา)
- กาลาเทีย 2:16 - แต่เรารู้ว่าการที่พระเจ้าจะยอมรับใครนั้น ก็เพราะคนนั้นไว้วางใจในพระคริสต์ ไม่ใช่เพราะเขาทำตามกฎ พวกเราก็เลยไว้วางใจในพระเยซูคริสต์ เพื่อพระเจ้าจะยอมรับเรา ดังนั้นเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจในพระคริสต์ ไม่ใช่การทำตามกฎ เพราะจะไม่มีใครเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้จากการทำตามกฎ
- โรม 4:11 - แล้วตอนหลังท่านถึงทำพิธีขลิบ เพื่อทำให้เห็นว่าพระเจ้ายอมรับท่านแล้วเพราะท่านมีความไว้วางใจก่อนที่ท่านจะทำพิธีขลิบเสียอีก ดังนั้นอับราฮัมจึงกลายเป็นบรรพบุรุษของทุกคนที่ไว้วางใจแต่ไม่ได้ทำพิธีขลิบ และพระเจ้านับว่าความไว้วางใจของพวกเขานี้ว่าเป็นสาเหตุเพียงพอที่จะยอมรับพวกเขา
- ฟีลิปปี 3:9 - ผมอยากจะมีสายสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าที่เกิดจากความซื่อสัตย์สุจริตของพระคริสต์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกฎของโมเสส สายสัมพันธ์ที่ถูกต้องนี้มาจากพระเจ้า และขึ้นอยู่กับความเชื่อ
- ฮีบรู 11:7 - เป็นเพราะโนอาห์ไว้วางใจนี่เอง เมื่อพระเจ้าเตือนเขาให้รู้ถึงเหตุการณ์ที่ยังมองไม่เห็น เขาก็เคารพยำเกรงพระเจ้า และได้ต่อเรือใหญ่เพื่อช่วยชีวิตคนในครอบครัวของเขา เพราะเขามีความไว้วางใจนี่เอง เขาถึงเป็นผู้ที่ทำให้เห็นว่าโลกนี้ผิด และพระเจ้าได้ยอมรับเขาแบบที่พระองค์ได้ยอมรับคนที่ไว้วางใจพระองค์